Translate

วันพุธที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2557

เป็นตุเป็นตะกับ Lucy the Movie 2014


ตั้งแต่ต้นเรื่องที่ได้ดู ก็อดคิดไม่ได้เลยว่า ผมต้องกลับมาเขียนรีวิวถึง ด้วยมุมมองของผู้ที่ชมแล้วคนหนึ่งแน่ๆ

ด้วยตัวอย่างหนังที่คัดกรองฉากพะบู๊ มาดึงดูด ไม่แปลกใจเลยว่าจะต้องเห็นอาการส่ายหน้าของคนที่ชมหนังเรื่องนี้บ้างอย่างแน่นอน เพราะความคาดหวังของผู้ชมบางส่วนนั้นคล้อยตามไปกับหน้าหนังเสียแล้ว

หลังตีตั๋วเข้าชม บางคนอาจจะหลับคร่อก บางคนอาจจะคิดว่าก็พอกล่อมแกล้ม (แอ็คชั่นก็ไม่ได้ขี้ริ้วอะไร เทคนิคดี CGสวย) แต่บางคนอาจจะนั่งดูด้วยอาการจดจ่อ เพราะได้เสพของชอบที่ถูกคอ...แบบผม

ผมอ่านสปอยจากหลายๆ ที่ในอินเตอร์เน็ตพอสมควร แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความสนุกในเนื้อหาถูกลดทอนลงแต่อย่างใด คนพวกหนึ่งที่อาจจะมีรสนิยมเดียวกับผม ก็น่าจะเป็นคนจำพวก

...คิดอยู่เสมอว่าเราเกิดมาทำไม? 
...คิดอยู่เสมอว่าอะไรคือสารัตถะแห่งชีวิต? 
...หรือคิดอยู่เสมอว่าไอ้การที่เราตั้งกฎเกณฑ์ อย่างเลขคณิตแบบ 1+1=2 นั้น มันสำคัญอะไรกับชีวิต ที่หมายถึง "ชีวิตจริงๆ" กะนักกะหนา

หนังเรื่องนี้โดนอย่างจังกับรสนิยมของผม มีหลายคนเปรียบเทียบกับหลักศาสนาพุทธบ้าง พระเจ้าบ้าง ก็นานาจิตตัง ตามประสบการณ์รับสารของแต่ละคน ...ไม่มีถูก ไม่มีผิด

สำหรับผม เห็นว่าบทหนังเล่นกับ "อวิชชา" ของคน โดยมีพื้นเป็นทฤษฎีๆ หนึ่ง ที่หยิบมาปูพรมนำร่อง ไล่จากสิ่งที่จับต้องได้ ไปสู่แนวคิดการมองจักรวาลในมุมของผู้สร้างหนัง ให้เนื้อหาของหนังดู "มีที่มา ที่ไป" และสอดคล้องกับสามัญสำนึกของผู้ชมทั่วไป เพื่อให้ง่ายต่อการดึงไปสู่จุดต่างๆ ของตัวหนังในลำดับต่อๆ ไปได้

ผมคิดว่าเรื่องนี้ล้อกับ the Matrix อย่างตรงไปตรงมา หลายฉาก หลายซีน หรือแม้กระทั่ง "ธีม" ที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกันเลยทีเดียว เริ่มมาตั้งแต่การเข้าสู่โลกที่จริงๆ แล้วไม่ใช่อย่างที่เราคิดกัน แสวงหา ปลดปล่อย หลุดพ้น สุดท้ายเป็นหนึ่งเดียวกับ Source อย่างธรรมชาติ หรือจักรวาล

ต้นเรื่องเปรียบเปรยคนกับสัตว์ว่ามัน "ไม่ต่างกัน" ไม่ว่าจะมีระบบนิเวศน์แบบคนๆ หรือแบบสัตว์ๆ

มาประมาณกลางเรื่อง เราจะพบกับหลักใหญ่ใจความของแนวคิดที่ถูกส่งต่อ เมื่อตัวเอกหลังควบคุมอำนาจ "พิเศษ" ได้พอสมควรแล้ว เธอก็ไขว่คว้าหาคำตอบ... 

คำตอบต่อคำถามเดียวกันกับทุกๆ คน ที่ไม่มีอำนาจพิเศษก็ยังเฝ้าถาม...

...แล้วยังไงต่อล่ะ? ...ต่อไปคืออะไร? ...เราขึ้นมาอยู่ในจุดๆ นี้ได้ เพื่ออะไรกัน?

ไม่ต่างกัน อุปมาเหมือนเราวาดฝัน แล้วได้เป็นแล้ว ทำให้เป็นจริงแล้ว ได้ใช้ชีวิตอย่างฝันแล้ว ถึงจุดสูงสุดในจุดที่ฝันถึงไปแล้ว

...แล้วจากนั้นยังไงต่อล่ะ? 

คำตอบนี้ตัวหนังไม่รีรอที่จะตอบอย่างตรงไปตรงมา โดยเปรียบเทียบกับสิ่งพื้นฐานที่สุด แบบไม่มีกลไกทางเศรษฐกิจที่มนุษย์อุปโลกน์ขึ้นเข้ามายุ่ง

ก็เผยแพร่ ถ่ายทอด แบ่งปัน ส่งต่อสรรพสิ่งที่คุณมี ไปให้แก่ผู้อื่นไง! (ความรู้ เนื้อหนัง พันธุกรรม เซลล์ นิวเคลียส ชีวิต จิตวิญญาณ ทุกๆ อย่าง)

ชีวิตจะต้องการอะไรไปมากกว่านี้ ในเมื่อทุกสิ่งเป็นสิ่งลวงตา หาสาระไม่ได้ ไม่มีอะไรเที่ยงแท้ ที่เราคิดว่ามีอยู่จริง ก็เนื่องมาจากขันธ์ทั้ง 5 ผูกพันปรุงแต่งขึ้นตามเหตุปัจจัย...  

เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป 

...มันก็เป็นเช่นนั้นเอง